‘9 มทร.’ จับมือแก้ปัญหาน.ศ.ซึมเศร้า-จิตตก ‘มทร.ธัญบุรี’ ดูแลผ่านคลินิกกำลังใจ

9 มทร.

‘9 มทร.’ จับมือแก้ปัญหาน.ศ.ซึมเศร้า-จิตตก ‘มทร.ธัญบุรี’ ดูแลผ่านคลินิกกำลังใจ

รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า มทร.ธัญบุรี ตระหนักและให้ความสำคัญกับนักศึกษา ที่นอกจากการมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนแล้ว เราเข้าไปดูแลเชิงลึกเกี่ยวกับด้านสุขภาพและจิตใจร่วมด้วย ในลักษณะของการดูแล ประสานงาน ช่วยเหลือเยียวยา สนับสนุนส่งเสริม และให้คำปรึกษา รวมถึงการป้องกัน โดยมีแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันภายในมหาวิทยาลัย และหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลด้วยกันเอง ในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรมสุขภาพจิตเพื่อให้นักศึกษา ได้รับการส่งเสริม ป้องกันด้านสุขภาพจิต และการดูแลช่วยเหลือผู้มีปัญหา รวมทั้งติดตามต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิต ผ่านทางงานบริการให้คำปรึกษาและคลินิกกำลังใจ

9 มทร.

รศ.ดร.สมหมาย กล่าวต่อว่า จากรายงานผลการศึกษาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันในปี 2565 มีผลการวิจัยโดยสรุปที่สอดคล้องกัน เช่น ผลการประเมินสุขภาพจิตคนไทยในปี 2565 ของกรมสุขภาพจิต พบกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี มีปัญหาสุขภาพจิตสูงกว่าทุกกลุ่มอายุ โดยพบว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 237,208 คน เป็นกลุ่มที่มีความเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย สูงกว่ากลุ่มวัยทำงานและวัยสูงอายุ ซึ่งมีสาเหตุพอที่จะสรุปเชื่อมโยงถึงเรื่องในครอบครัว การเรียน และความกังวลในอนาคตที่ไม่แน่นอนของตนเอง การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ จากการตกงาน หรือสูญเสียรายได้ของครอบครัว ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ซึ่งนักศึกษาในมหาวิทยาลัยก็จัดว่าเป็นกลุ่มคนดังกล่าวที่มีความเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจิต ทั้งภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล จิตตกและเครียด จึงมีแนวทางการจัดบริการให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจ ผ่านทางคลินิกกำลังใจหรือ Mind Counseling RMUTT ที่เปิดให้บริการแก่นักศึกษาและบุคลากรมานานกว่า 5 ปี โดยนักจิตวิทยาและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผ่านกระบวนการสำรวจและคัดกรอง บริการให้คำปรึกษา ประสานส่งต่อติดตามผล สร้างเครือข่าย ตลอดจนการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ด้วยการดูแลระดับเบื้องต้นและเชิงลึก ซึ่งให้คำปรึกษาเป็นรายกรณีเฉพาะบุคคล แบบกลุ่ม แบบออนไลน์ โดยมุ่งบริการภายใต้แนวคิด “ปกปิด-ปลอดภัย-เปิดใจ” ล่าสุดมีสถิติการเข้ารับบริการในปี 2565 ที่ได้รับการดูแลและจัดการปัญหาแล้วกว่า 200 ราย ในรายที่มีความรุนแรงมีการส่งต่อเชิงลึกเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลในเขตศูนย์สุขภาพจิตที่ 4

“ขณะเดียวกัน ยังร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอกด้านสุขภาพจิตร่วมด้วย ทั้งการจัดอบรมอาจารย์ที่ปรึกษา บุคลากรที่ทำหน้าที่ให้บริการและใกล้ชิดนักศึกษา รวมทั้งกลุ่มผู้นำนักศึกษาร่วมด้วย เพื่อช่วยเหลือนักศึกษา และที่สำคัญยังจัดทำข้อตกลงความร่วมมือใน โครงการ “คู่เครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ” ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่งกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลกับนักศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยร่วมกันดำเนินการในแต่ละเขตสุขภาพที่ดูแลแต่ละพื้นที่” อธิการบดีมทร.ธัญบุรี กล่าว

นอกจากนี้ มทร.ธัญบุรียังมี กองทุนสุขภาพนักศึกษา ที่จัดตั้งและดำเนินการมานานกว่า 5 ปี ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนักศึกษา กรณีเจ็บป่วยทั้งด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ อีกทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ และเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับสุขภาพของนักศึกษา โดยนักศึกษาใช้สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ตนได้รับอยู่ก่อนแล้ว แต่หากมีค่าใช้จ่ายเกินกว่าสิทธิที่ตนได้รับอยู่ สามารถเบิกค่าใช้จ่ายตามประกาศของกองทุนได้ตามที่จ่ายจริงได้อีกด้วย

ขณะที่ อีกทั้ง 8 มทร. ในกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ก็มีลักษณะและแนวทางเช่นเดียวกันในการร่วมโครงการ “คู่เครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ” ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่งกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ผ่านทางศูนย์สุขภาพตามแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศสิ่งที่เครือข่ายราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ดำเนินการอยู่ขณะนี้ เป็นต้นแบบหนึ่งที่จัดว่าประสบความสำเร็จขั้นหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานดูแลช่วยเหลือนักศึกษาด้านสุขภาพจิตแบบองค์รวมและบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ

อ่านข่าวการศึกษาที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : กระทรวงศึกษาธิการ ออกนโยบาย โรงเรียนเขตปลอดบุหรี่ไฟฟ้า